การทำงานที่บ้านหรือ Work from Home เป็นหนึ่งในวิธีการทำงานยอดนิยมในปัจจุบัน โดยเฉพาะในประเทศไทยที่การจราจรไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าใดนัก ทว่าสิ่งที่ตามมาคือ การทำงานที่บ้านอาจทำให้เกิดความห่างเหินของพนักงานได้ง่าย การนำเทคโนโลยี Virtual Workplace มาประยุกต์ใช้นอกจากจะทำให้งานมีสีสันมากขึ้น ยังช่วยให้พนักงานของคุณใกล้ชิดกันง่ายขึ้นอีกด้วย
รู้จักกับ Virtual Workplace
Virtual Workplace คือ ที่ทำงานเสมือนที่มีความสามารถทุกอย่างใกล้เคียงกับการทำงานออฟฟิศจริงๆ เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานสนทนา พรีเซนต์ และทดลองทำสิ่งต่างๆ ผ่านฟังก์ชันต่างๆ เพื่อทำให้การทำงานออนไลน์นั้นสมบูรณ์แบบที่สุด
นอกจากการทำงานออนไลน์ผ่านโปรแกรมต่างๆ Virtual Workplace ยังมีอีกหนึ่งความหมาย คือ การเปิดสถานที่ทำงานที่ไม่มีโต๊ะนั่งตายตัว ทุกคนสามารถเข้ามาทำงานโดยล็อกอินจากอุปกรณ์ตรงจุดไหนก็ได้ ทำให้พนักงานไม่จำเป็นต้องมาที่บริษัทพร้อมกันทุกคน แต่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
โดยในบทความนี้เราจะเน้นการพูดถึง Virtual Office แบบแรกที่เป็นการทำงานออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มเป็นหลัก
Table of Contents
ข้อดีของ Virtual Workplace
1. เข้าถึงที่ทำงานได้ง่าย
การทำงานด้วย Virtual Workplace จะเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถทำงานจากที่ไหน เมื่อไร ก็ได้ ขอแค่มีการบริหารจัดการเวลา และระบบการทำงานได้ดีพอ ซึ่ง Virtual Workplace ในปัจจุบันมีการจัดสรรแบ่งห้องให้ทุกคนสามารถพูดคุยกันได้ง่ายขึ้น แชร์ไฟล์หรือหน้าจอได้สะดวก พร้อมฟังก์ชันมากมายที่น่าสนใจ
2. เพิ่มความใกล้ชิดให้คนในทีม
การมี Virtual Workplace เปรียบเสมือนการที่ให้คนในทีมของคุณเข้ามารวมตัวกันโดยมีโลกเสมือนเป็นจุดศูนย์กลาง ช่วยกลบจุดอ่อนของการทำงานออนไลน์ที่ผู้คนไม่สื่อสารกันได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อผู้คนออนไลน์พร้อมๆ ย่อมมีแนวโน้มที่คนเหล่านั้นจะพูดคุย ปรึกษาหารือกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องอื่นๆ เพิ่มความสนิทชิดเชื้อที่อาจหาได้ยากหากทำงานและนัดประชุมเป็นครั้งๆ
3. สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ง่าย
Virtual Workplace ไม่ได้เป็นแค่สถานที่สำหรับประชุมงาน แต่ยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้มากมายไม่ว่าคุณจะเปิดกล้องหรือปิดกล้อง เช่น Gather.town ที่ทำ Virtual Workplace ในรูปแบบเกม RPG ที่เรามีตัวละครเสมือนเพื่อให้พูดคุยกับคนอื่นๆ และสามารถเล่นเกมต่างๆ ร่วมกันได้อีกด้วย
ใครบ้างที่เหมาะกับการใช้ Virtual Workplace
1. องค์กรที่ทำงานแบบ Work from Home 100%
การทำงานที่บ้านแบบ 100% อาจทำให้คนในองค์กรนั้นห่างเหิน ไม่รู้จักกัน รวมถึงสามารถกำหนด แจกจ่ายงาน ไปจนถึงสร้างวัฒนธรรมองค์กรต่างๆ ได้ยาก การใช้งาน Virtual Workplace จะช่วยแก้ไขปัญหาส่วนนี้ได้ง่ายขึ้น ด้วยการเปลี่ยนทุกอย่างเข้าสู่โลกเสมือน ทำให้ผู้คนมารวมตัวกันได้สะดวกยิ่งขึ้น
2. ทีมที่ทำงานแบบ Hybrid Work
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นการทำงานออนไลน์แบบ 100% แต่สำหรับทีมที่ทำงานแบบ Hybrid Work เองก็เหมาะสำหรับที่จะใช้งาน Virtual Workplace เช่นเดียวกัน เนื่องจากจะทำให้คนทั้งบริษัทสามารถทำงานได้เสมือนนั่งอยู่ในที่ทำงานเดียวกัน
3. พนักงาน Freelance
สำหรับสายงาน Freelance เองก็สามารถเข้าร่วมใช้งาน Virtual Workplace ได้ และอาจจะดีกว่าที่คิดด้วย เนื่องจากคนทำงานสามารถติดต่อประสานงานกับบุคลากรต่างๆ ในบริษัทได้อย่างรวดเร็ว สามารถสอบถามความเห็นและแนวทางต่างๆ ได้ง่าย สำหรับ Virtual Workplace บางแห่งยังช่วยในการติดตามงาน วางตารางการทำงานอย่างละเอียด ทำให้งานสาย Freelance สามารถทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ตัวอย่างของ Virtual Workplace
True VWORK เป็นหนึ่งใน Virtual Workplace ที่น่าสนใจสำหรับการทำงานแบบ Work from Home และ Work from Anywhere อย่างมาก เนื่องจากมีฟังก์ชันพื้นฐานต่างๆ ครบถ้วน เหมาะสำหรับการทำงาน โดยมีการทำงานเบื้องต้นดังนี้
- การจัดสรรสารบบพนักงาน
- การบริหารจัดการงาน
- ศูนย์กลางการติดต่อสื่อสาร
- อนุมัติเอกสารออนไลน์
- แบบฟอร์มออนไลน์
- พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้
- เช็กอินเข้างาน
ฟังก์ชันต่างๆ ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อรองรับการทำงานจากที่ไหน เมื่อไรก็ได้ ด้วยระบบออนไลน์คุณภาพจาก True ทำให้ VWORK เป็นแพลตฟอร์มทำงานที่ช่วยผลักดันองค์กรของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
สรุป
Virtual Workplace เป็นตัวเลือกการทำงานยุคใหม่ที่ทรงประสิทธิภาพมาก ที่จะช่วยให้คนในบริษัทของคุณสามารถติดต่อสื่อสารได้ง่าย และใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพนักงานเต็มเวลา พาร์ทไทม์ หรือฟรีแลนซ์ก็สามารถใช้งานได้
True VWORK เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มการทำงานคุณภาพสูงจาก True ที่จะช่วยให้การทำงานของคุณง่าย ไม่มีสะดุด พร้อมฟังก์ชันช่วยเหลือต่างๆ อีกมากมาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ True VWORK
อ้างอิง